-:- พิธีถวายภัตตาหาร : ประจำวันอาทิตย์ ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ.2563 -:-


ขออนุโมทนาบุญกับญาติธรรมของคณะพระธรรมทายาท ที่มาร่วมกันอุปถัมภ์ถวายภัตตาหารประจำอาทิตย์ ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ.2563 ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมคำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ขอให้เป็นผู้มีสุขภาพกายแข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่ไข้ ขอให้สุขสมหวังในสิ่งที่ดีงามทุประการ ปฏิบัติธรรมคราใดให้มีใจหยุดนิ่งได้เข้าถึงสภาวความสุขภายในเข้าถึงพระรัตนตรัยภายในได้โดยง่ายโดยเร็วพลันจงทุกประการเทอญ...














คำกล่าวถวายภัตตาหาร (ทั่วไป)

อิมานิ มะยัง ภันเต ภัตตานิ สะปะริวารานิ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ
สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ อิมานิ ภัตตานิ สะปะริวารานิ ปะฎิคคัณหาตุ
อัมหากัง ฑีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ ฯ

คำแปล
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวาย ภัตตาหาร กับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้
แด่พระสงฆ์ ขอพระสงฆ์ จงรับภัตตาหาร กับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย
เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ตลอดกาลนานเทอญ ฯ











อานิสงส์ของการถวายภัตตาหาร


      ผู้ถวายภัตตาหารควรประกอบตนให้มีความสมบูรณ์ในคุณธรรม การถวายภัตตาหารจึงจะได้ผลานิสงส์อย่างยิ่งใหญ่หาประมาณมิได้ และการทำบุญแต่ละครั้งนั้น เราต้องถือว่าเพื่อเป็นการกำจัดกิเลส ความตระหนี่ ความเห็นแก่ตัว และความโลภ ให้กลายมาเป็นคนมีจิตใจโอบอ้อมอารีย์ มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ซึ่งเป็นคุณสมบัติของผู้ที่ได้ชื่อว่า ผู้มีความเจริญ

               ผลของการถวายภัตตาหารที่ให้ผลในปัจจุบัน ๔ ประการ ตามที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแก่เสนาบดี ชื่อ สีหะ ในปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ว่า 
                 ๑.ผู้ถวายทานย่อมเป็นที่เคารพนับถือของคนดีทั้งหลาย
                 ๒.คนดีย่อมพอใจที่จะคบหาสมาคมด้วย
                 ๓.ย่อมได้รับการสรรเสริญจากคนดีว่า เป็นผู้มีความเสียสละปราศจากความตระหนี่
                 ๔.จะเข้าไปสู่ที่ประชุมหรือชุมชนใดๆก็ไม่ประหม่า หวาดกลัว เป็นคนกล้าหาญดุจราชสีห์

            อีกประการหนึ่ง บุคคลที่มีจิตใจเป็นบุญเป็นกุศลทำบุญให้ทานเป็นประจำ ย่อมได้รับความสุข ความเจริญในที่ทุกสถานในกาลทุกเมื่อ ครั้นเมื่อได้จากภพนี้ไปแล้วย่อมมีจิตใจผ่องใส ไปเกิดในภพใหม่ชาติใหม่ ก็ย่อมจะมีแต่ความสุขความเจริญ หรือไปเกิดในภพในภูมิใดๆ ก็จะไม่ประสบความยากจนเข็ญใจ ไร้ทรัพย์อับปัญญา จะมีแต่ความมั่งคั่งสมบูรณ์ เพียบพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติ ประกอบด้วยอิฏฐผล ๖ ประการ คือ

                 ๑.เป็นผู้มีผิวพรรณดี   

                 ๒.เป็นผู้มีเสียงไพเราะน่าฟัง

                 ๓.เป็นผู้มีทรวดทรงสมส่วน  

                 ๔.เป็นผู้มีรูปสวยกล่าวคือสรีระทั้งสิ้นงาม

                 ๕.เป็นใหญ่โดยความเป็นอธิบดี 

                 ๖.เป็นผู้มีบริวารมาก

                รวมความว่า การถวายภัตตาหารนั้น ได้อานิสงส์คือบุญ และ

                บุญให้ผล ก็คือ ความสุขทั้งในชาตินี้และชาติหน้า

                                       คำอธิษฐานก่อนถวายภัตตาหาร

           สุทินนัง วะตะ เม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง โหตุ
 

0 ความคิดเห็น